วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

หนังน่าดู "Ponyo" เดอะ ลิตเติล เมอร์เมด ฉบับสตูดิโอจิบลิ


ยังงงๆ อยู่ไม่รู้จะเอาเรื่องอะไรมาอัพดี ก็นึกได้ว่าเพิ่งดูการ์ตูนเรื่อง Ponyo ไป ก็มีอะไรให้เล่าเหมือนกันนี่หว่า... อิๆ

ก่อนหน้านี้ถ้าเราชวนใครไปดู Ponyo พร้อมกับเปิดหนังสือให้ดูรูปภาพของ Ponyo แล้วล่ะก็ ทุกคนจะต้องถามเป็นเสียงเดียวกันว่า "นั่นมานตัวอะไรน่ะ!?" พอเราตอบว่าปอนโยเป็นนางเงือก ทุกคนก็ทำหน้าตกใจกันหมดเลย ฮิๆ แหมก็ตัวกลมป้อมหัวแดงซะขนาดนั้น

แล้วพอบอกว่าไปดูกันเถอะ ทุกคนก็จะบอกปัดว่าฉันไม่ดูหนังเด็กไปเสียทุกครั้ง สุดท้ายก็เลยไม่ได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรง แต่ได้ดูจากดีวีดีแทน แล้วพอดูก็ต้องบอกว่าไม่ผิดหวังกับผลงานล่าสุดของสตูดิโอจิบลิเลย ยังคงเป็นหนังที่ดูสนุก ตื่่นเต้น และดูสมจริงจนเกือบลืมไปเลยว่าเป็นการ์ตูน โดยเฉพาะฉากทะเลพิโรธนั้น บอกตรงๆ ว่า่น่ากลัว อาจทำให้เด็กเล็กๆ ฝันร้ายได้เลยหละ

อะนิเมะเรื่องนี้เป็นการเล่าเรื่องล้อกับนิทานคลาสสิกเรื่อง The Little Mermaid เพื่อนๆ คงงงๆ ว่า อ้าว แล้วจะเอามาทำเป็นหนังทำไม ก็คนเขารู้เรื่องเงือกน้อยกันหมดแล้วไม่ใช่เรอะ จริงอยู่ว่าพล็อตเรื่องโดยหลักๆ นั้นเล่าล้อกับนิทานเรื่องนี้อย่างเห็นได้ชัด เช่น ปอนโยเป็นปลาทองแสนซุกซนอาศัยอยู่ในทะเล วันดีคืนดีก็ได้มีโอกาสขึ้นมายังโลกมนุษย์ แล้วก็ได้พบกับเด็กชายชื่อ "โซซึเกะ" ซึ่งกลายมาเป็นเพื่อนกัน และทำให้ปอนโยดิ้นรนอยากเป็นมนุษย์เพื่อจะได้ไปอยู่กับโซซึเกะ แต่แก่นเรื่องโดยแท้จริงกลับเป็นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาิติอันเป็นธีมถนัดของสตูดิโอจิบลิเสียมากกว่า

ปลาทองปอนโย่นั้น เมื่อตอนที่อยู่บนบกได้กินเลือดของโซซึเกะเข้าไปโดยบังเอิญ ทำให้มีแขนขางอกออกมาเหมือนมนุษย์ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าปอนโยจะกลายร่างเป็นเงือกสาวสวยงามเหมือนอย่างที่เราเคยอ่านในนิทาน เพราะจริงๆ ระหว่างกลายร่างนั้น ปอนโยกลับดูเหมือนกบหรือลูกเจี๊ยบหน้าตาน่าเกลียดเสียมากกว่า... (ความคิดเห็นส่วนตัว)

ปอนโยถูกพ่อ (ซึ่งในทีนี้มีคาร์แรคเตอร์พิลึกกึกกือเหมือนพี่จอห์นนี่ เด๊ป) ขังไว้ในฟองอากาศไม่ให้กลับขึ้นไปยังโลกมนุษย์ แต่ได้พี่ๆ น้องๆ ปลาทองซึ่งทุกตัวมีหน้าตาเหมือนกันหมด ช่วยให้ออกมาได้ ในฉากนี้เอง ภาพพี่ๆ น้องๆ ของปอนโยนับร้อยๆ พันๆ ตัวที่กลุ้มรุมฟองอากาศอยู่มองดูเหมือนลูกอ๊อดไม่มีผิด (อันนี้ก็ความคิดเห็นส่วนตัวอีก)

ุปอนโยที่กลายร่างเป็นเด็กผู้หญิงอายุ 5 ขวบได้หนีขึ้นไปบนโลกมนุษย์อีกครั้ง และครั้งนี้เธอเกือบจะพาความพินาศมาด้วย เพราะเมื่อเงือกอย่างเธอขึ้นมาอยู่บนโลกมนุษย์ ก็ทำให้ท้องทะเลเสียสมดุล เกิดเป็นคลื่นลมแรง ซึ่งในฉากเหล่านี้ผู้กำกับได้แฝงคำอธิบายถึงปรากฎการณ์ทางธรรมชาติอย่างสึนามิไว้ได้อย่างชาญฉลาด และก็เป็นส่วนที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดของหนังเรื่องนี้ด้วย ภาพท้องทะเลสีดำมืด พระจันทร์ที่เคลื่อนที่เข้าใกล้โลกจนเห็นเป็นดวงโต ลูกคลื่นที่โผนทะยานสูงขึ้นๆ ดูราวกับสัตว์ประหลาด คลื่นลมครื้นครั่นจนทำให้เรือแทบอับปาง

ในฉากที่เรือของพ่อโซซึเกะถูกพัดมารวมกับเรือลำอื่นๆ ที่จอดนิ่งเสมือนไร้ชีวิตจิตใจอยู่บนท้องทะเลสีดำนั้น ให้ภาพเช่นเดียวกับซากเรือปีศาจและชวนให้นึกถึงวรรณกรรมเรื่อง The Ancient Mariner ที่คนเรือได้ทำบาปโดยฆ่านกอัลบาทรอสไม่มีผิด

แต่ก่อนที่หนังทั้งเรื่องจะฉุดเราลงสู่ความมืดหม่นยิ่งกว่านี้ การปรากฎตัวของ "เธอผู้นั้น" ก็ทำให้โทนของเรื่องซอฟท์ลงโดยทันที เธอพลิ้วมากับระลอกคลื่น จุดประกายแสงสว่างให้กับท้องทะเลอันมืดมิด และทำให้ทุกสิ่งคืนสู่สมดุล ...เธอคือแม่ของปอนโย่!!!

ขอไม่บอกว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร จริงๆ คนอ่านก็คงเดาได้อยู่แล้ว แต่ต้องขอบอกว่าหนังเรื่องนี้งดงามในความเรียบง่ายทว่าเต็มไปด้วยจินตนาการอย่างแท้จริง ภาพของหมู่บ้านริมชายทะเลคงเป็นสถานที่ในฝันของใครหลายคน ที่คิดว่าในชีวิตอยากจะไปเที่ยวที่อย่างนี้บ้าง แต่ก็คงไม่รู้ว่าจะไปที่ไหน เพราะไม่รู้ว่ามันมีอยู่จริงหรือเปล่า!!???

ภาพความใสซื่อของเด็กน้อยอย่างโซซึเกะที่ทำให้ทุกอย่างคลี่คลายลง ก็ทำให้พวกเราคิดได้ว่าแท้จริงแ้ล้วเรื่องบางอย่างก็อาจไม่ใช่เรื่องซับซ้อนอะไรเลย... หากเรามองดูด้วยหัวใจของเด็ก และเชื่อว่ายังมีอีกหลายคนที่ประทับใจกับฉากที่่พ่อซึ่งกำลังออกเรือสื่อสารกับแม่และโซซึเกะด้วยไฟฉาย เป็นการใช้รหัสสั้นๆ แทนคำพูดที่อยู่ในใจ แต่บอกอะไรได้มากมาย เชื่อว่ารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้นี่เองที่ทำให้หนังของจิบลิไม่เพียงเป็นอะนิเมะ แต่ว่ายังเป็นภาพสะท้อนของชีวิตด้วย

การ์ตูนเรื่อง Ponyo กำกับโดยผู้กำกับ ฮายาโอะ มิยาซากิ พ่อมดแห่งสตูดิโอจิบลิ และลาโรงในเืมืองไทยไปแล้วเมื่อราวเดือนกันยายนที่ผ่านมา

-- Copyright By Ketto --

ป.ล.ขออภัยหากบทความนี้มีข้อผิดพลาด เพื่อนๆ ที่สนใจภาพยนตร์ก็เชิญร่วมแสดงความคิดเห็นกันได้ที่นี่นะคะ ^ ^

2 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 ธันวาคม 2552 เวลา 07:16

    เป็นอีกเสียงที่ชอบการ์ตูนค่ะ ทั้งอ่าน ทั้งดู

    ส่วนของจิบลิ เคยดูอยู่ 2 เรื่อง คือ Spirit away กับ Tokyo Godfather ค่ะ

    ชอบ spirit away มากกว่านะ ภาพสวย ดำเนินเรื่องสนุก แล้วก็ยังแอบแฝงคติสอนใจด้วย

    คุณเกด ลองหามาดูนะจ้ะ
    หรือจะให้ write ไปให้ก็ยินดีเป็นอย่างมากค่ะ

    หลังไมค์ได้ทุกเวลานะคะ

    tuktik

    ตอบลบ
  2. อยากดูเหมือนกันค่ะ เรื่อง Spirited Away ที่คุณติ๊กว่ามา เกดเคยดูตอนเป็นซับนรกน่ะ เสียอรรถรสไปกว่าครึ่งเลยค่ะ หากจะให้ยืมฉบับซับเต็มๆ ก็ยินดีค่ะ ^ ^

    ตอบลบ